พยัคฆ์ยี่เก เป็นเรื่องราวของศิลปินกลุ่มเล็ก ๆ ซึ่งยึดการแสดง…ลิเก เป็นอาชีพ แม้ความนิยมของคนดูจะลดน้อยถอยลง แต่พวกเขายังคงต่อสู้ ดิ้นรนเพื่อความอยู่รอด
บุญเอก อมรินทร์ พระเอกลิเกหนุ่มผู้เป็นหัวหน้าคณะ ได้นำเอาวิทยาการสมัยใหม่ รวมทั้งเพลงลูกทุ่งที่กำลังอยู่ในความนิยม เข้ามาผสมผสานในการแสดงบนเวที เพื่อสร้างความตื่นตาตื่นใจ ให้คนดู บางครั้ง บางเรื่อง…เทวดาเหาะลงมาจากฟากฟ้าท่ามกลางหมอกควัน บางครั้ง บางเรื่อง…พระฤษีขี่ช็อปเปอร์ใส่หมวกกันน็อกขึ้นบนเวทีโดยมี อินทิรา น้องสาวของตนเป็นนางเอก เด็ดดวง เป็นตัวโกงประจำคณะและมี น้ำหวาน เป็นดาวยั่วหรือตัวร้าย บุญโอบ ผู้เป็นอาของ บุญเอก คือ ครูฝึกสอน และ ที่ปรึกษานง ภรรยาของ บุญโอบ เป็นผู้ดูแลความเป็นอยู่ของทุกคนในคณะ
ลิเกไฮเทคของ บุญเอก อมรินทร์ ไปแสดงที่ไหน บรรดา แม่ยก ก็จะแห่ตามมาดูขวัญใจของตน โดยเฉพาะ นวล ภรรยาของกำนันเทิด ผู้มีอิทธิพล แม้ไม่พอใจ กำนันเทิด ก็ทำอะไรไม่ได้เพราะเกรงใจเมีย กำนันเทิด ได้ส่ง ทำนุ ลูกชายวัยรุ่นที่กำลังสร้างอิทธิพลแข่งกับพ่อตามไปก่อกวน ทำนุ กลับมาถูกใจ อินทิรา จนไม่กล้าป่วน แถม ทับทิม น้องสาวคนสวยของ ทำนุ ซึ่งกล้าแก่นไม่กลัวคนที่ตามมาด้วย กลับไปหลงใหล บุญเอก แข่งกับแม่ กำนันเทิด จึงต้องชอกช้ำทวีคุณ
บุญเอก ยังมีลิเกคู่แข่งอีกคณะหนึ่งคือ อนุชิต ศิษย์สำราญ โดยมีน้ำอ้อย ซึ่งสวยไม่น้อยหน้าใครเป็นนางเอก ทั้งสองคณะนี้ไม่มีใครยอมใคร ไปตั้งเวทีประชันกันที่ไหน เป็นต้องงัดไม้ตายออกมาสู้กัน แม้บางครั้งคณะ อนุชิต ศิษย์สำราญ จะมีแผนการร้ายๆ แต่ทำอะไรลิเกไฮเทคของ บุญเอกที่ร้องเพราะ รำสวย ไม่ได้ เป็นธรรมชาติ คนแพ้ต่อย ย่อมชวนตี ลิเกสองคณะจึงยกพวกเข้าห้ำหั่นกันบ่อยครั้ง
กำนันเทิด ว่าจ้างลิเกทั้งสองคณะไปเล่นประชันกัน เพื่อฉลองงานวันเกิดให้ นวล ลิเกคณะอนุชิต เดินทางไปก่อน แล้ววางแผนแกล้งลิเกคณะ บุญเอก โดยโรยตะปูเรือใบไว้เต็มถนน รถของบุญเอก คันที่นำหน้ายางแตกทั้งสองเส้น จนต้องใช้รถคันหลังช่วยขนถ่ายอุปกรณ์ฉาก ทางด้าน คน ก็พากันเดินไปเรื่อย ๆ ต้องถือเป็นโชคร้ายที่ฝนลงมาอย่างไม่มีเค้า ทุกคนต้องวิ่งเข้าไปหลบในถ้ำ บุญโอบ ไปพบเป้บรรจุเพชรซุกซ่อนอยู่ จึงเอามาใส่ให้ อินทิราออกแสดงจนวูบวาบไปทั้งเวที ลิเกคณะ บุญเอก จึงชนะ คณะ อนุชิต รับเงินเดิมพันมาทั้งหมด บุญโอบ เองก็ไม่รู้ว่า…เพชร ในเป้ลูกนั้นมาจากไหน
ต้นทางของเพชรในเป้นั้นคือ ประเทศไทย ได้จัดให้มีการแสดงเพชรระดับโลกขึ้นที่กรุงเทพ ฯ หลายประเทศได้ส่งเพชรชั้นสุดยอดเข้ามาร่วมงานด้วย เดวิด นักธุรกิจจากต่างชาติผู้จัดแสดง ได้วางแผนโจรกรรมเพชรที่ตัวเองจัดแสดงอย่างแยบยล ทว่า เหนือฟ้ายังมีฟ้า เหนือกว่าแผนการปล้น ยังมีการปล้นซ้อนปล้น
เชิด เป็นตัวการปล้นซ้อนแผนของ เดวิด โดยมีผู้วางแผนให้ แต่เมื่อปล้นได้ เชิดกลับเปลี่ยนใจไม่ยอมนำเพชรไปให้ผู้ว่าจ้าง เพราะราคาจ้างกับราคาเพชรผิดกันมาก เชิด เอาเพชรไปซุกซ่อนไว้ในถ้ำแล้วฆ่าผู้ร่วมงานทุกคน เชิด จึงเป็นคนเดียวที่รู้ว่า เพชร อยู่ที่ไหน เชิด ติดต่อจะขายเพชรให้กับ เสี่ยอ่าง เจ้าพ่อแห่งวงการเพชรเมืองไทย เมื่อตกลงกันได้ เชิด ก็ย้อนกลับมาเอาเพชรในถ้ำ ปรากฏว่า เพชร ทั้งหมดหายไป
เดวิด ส่งการ์ดสาวสามคน สืบหาจนรู้ว่าเพชรตกไปอยู่กับคณะลิเก…เสี่ยอ่าง ก็ส่ง เหว่ย เซียะ และ กัง สามมือพิฆาตของตน ออกติดตามเส้นทางของเพชรเช่นกัน ที่เหนือกว่านั้น…สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ส่งสองนายตำรวจมือปราบแห่งยุค ติดตามคดีอย่างใกล้ชิด เดวิด เสี่ยอ่าง และ เชิด ต่างก็รู้ว่าเพชรไปตกอยู่กับคณะลิเก แต่ยังไม่แน่ใจว่า เป็นลิเกคณะไหน
สามการ์ดสาว ของเดวิด ก็บุกเข้าค้นบ้านของลิเกคณะ อนุชิต ศิษย์สำราญ เพื่อจะหาเพชร เหว่ย และ เซียะ บุกเข้าจับคนในคณะลิเกของ บุญเอก เพื่อจะเอาตัวไปซักถาม แต่..ต้องหน้าหงายกลับไป เพราะทุกคนในคณะร่วมมือร่วมใจกันต่อสู้ ที่รุนแรงยิ่งไปกว่านั้น…เชิด นำลูกน้องเข้าปล้นบ้านของ บุญเอก อมรินทร์ เพราะต้องการเอาเพชรคืน ทุกฝ่ายทำไม่สำเร็จเนื่องจาก สองตำรวจมือปราบคือ ร.ต.อ. เดชา และ ร.ต.ท. หญิงบังอร ได้วางแผนป้องกันอย่างรัดกุม
ร.ต.อ. เดชา ปลอมตัวไปขอหัดลิเกอยู่กับคณะของ บุญเอก แม้ไม่เต็มใจต้อนรับแต่บุญเอก ไม่อยากขัดใจ อินทิรา น้องสาวผู้มีใจให้ เดชา สำหรับ บุญเอก กับ บังอร ต้องถือเป็นคู่อริตลอดกาลแม้จะมีจิตใจให้กัน แต่ทั้งคู่ต่างก็ซุกซ่อนไม่ยอมเปิดให้อีกฝ่ายรู้เห็น
กลุ่มเหล่าร้ายเปลี่ยนแผนการใหม่ โดยหันมาร่วมมือร่วมใจกัน เสี่ยอ่าง ทุ่มเงินจ้างลิเกทั้งสองคณะมาเล่นประชัน..ล้มเงินรางวัลกัน แถมมีเงินรางวัลล่อใจ สำหรับลิเกคณะที่มีเครื่องประดับสวยงาม เพราะคาดหวังว่า..ลิเกคณะใดที่ครอบครองเครื่องเพชรอยู่ จะนำออกมาแต่งโชว์ และก็เป็นไปตามคาดหมาย เมื่อถึงวันงาน บุญโอบ งัดเครื่องเพชรออกมาให้ อินทิรา สวมใส่อีกครั้ง เสี่ยอ่าง…วางแผนให้ เหว่ย และ เซียะ ลักพาตัว อินทิรา พร้อมเครื่องเพชรทันที เดวิด…สั่งสามการ์ดสาวตามประกบไม่ยอมให้คลาดสายตา เชิด…และลูกน้องเตรียมพร้อมที่จะปล้นซ้อนแผนอีกครั้ง ผู้กอง เดชา และ หมู่ชื่น ตาม อินทิรา ชนิดก้าวต่อก้าว บังอร…และ ตำรวจสายสืบ ประกบรอบนอกไว้อีกชั้นหนึ่ง ทว่า…เหตุร้ายก็เกิดขึ้นจนได้
หมอลำซิ่ง ซึ่ง เดวิด จัดมาให้ความครึกครื้นในงานเล่นเสียงดังเกินเหตุ จนลิเกทั้งสองคณะเล่นกันไม่รู้เรื่อง ตุ๊ ตัวโกง ของคณะ อนุชิต จึงร้องกลอนถาม เด็ดดวง ตัวโกงของคณะ บุญเอก ว่าจะเอายังไงดี เด็ดดวง ก็ร้องกลอนตอบเป็นทำนองว่า รวมตีนซะเลย หมอลำซิ่ง กลับถามมาว่า..เก่งแต่ปากหรือเปล่า ลิเกทั้งสองคณะจึงยกพวกเข้าตะลุมบอนกับหมอลำซิ่ง ที่พร้อมจะมีเรื่องอยู่แล้ว เดชา จำต้องโดดเข้าช่วยพวกลิเก เหว่ย และ เซียะ ได้โอกาสก็ตรงฉุด อินทิรา จากหน้าเวที หมู่ชื่น ปราดเข้าขวางก็ถูกยิงทรุด บุญโอบ เข้าช่วยจึงโดนยิงอีกคน เหว่ย และ เซียะ เอาตัว อินทิรา ที่แต่งเครื่องเพชรหนีไปได้
ทว่า เหว่ย และ เซียะ ไปได้แค่ครึ่งทาง ทำนุ ผู้ซึ่งหลงใหล อินทิรา และ ชำนาญเส้นทางกว่าก็มาดักหน้าแย่งชิงตัว อินทิรา ไปได้ แต่ด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ทำนุ กลับนำตัว อินทิรา ไปส่งมอบให้กับ เดวิด รางวัลที่ ทำนุ ได้รับคือ ถูกการ์ดสาว ยิงจนทรุด เดวิด พา อินทิรา มาได้อีกครึ่งทางก็พบกับด่านสำคัญ นั่นคือหมอมนตรี และ สว.ป. มงคล
หมอมนตรี ที่คนทั้งตำบลรู้จักคือ..หมอใจบุญที่รับรักษาให้ทุกคน ทุกโรค จะได้เงินหรือไม่ได้เงินไม่เคยสนใจ แต่เบื้องหลังที่ไม่มีใครรู้คือ เขาเป็นผู้วางแผนการปล้นเพชรให้กับ เดวิด เป็นตัวการใหญ่ผู้ค้าอาวุธสงครามข้ามชาติ เป็นผู้วางแผน ยัดยาเสพติดใส่กล่องสินค้าของโอทอป เมื่อเรื่องทำท่าจะเปิดเผยก็หลอก ใหญ่ มาเป็นแพะ เพื่อให้ตัวเองพ้นผิด บุคคลที่คอยช่วยสานงานของ หมอมนตรี ให้ลุล่วงตามเป้าหมายคือ สว.ป. มงคล
พ.ต.ต. มงคล เป็นสารวัตรปราบปรามที่ย้ายไปประจำอำเภอชายแดน จ.สระแก้วเพื่อร่วมมือกับ มนตรี อย่างใกล้ชิด มงคล กล้าได้กล้าเสีย กล้าทำในสั่งที่คนอื่นคาดไม่ถึงอยู่เสมอ
มงคล และ มนตรี รู้ดีว่า ทุกคนมาชุมนุมกันที่วัดหลังถ้ำเพราะ เครื่องเพชร มงคลและ มนตรี จึงไปดักรอในจุดที่ทุกคนต้องผ่านคือปากทางถนนเข้าวัด เมื่อ เดวิด นำตัว อินทิรา ขึ้นรถหนีเขาก็ไปติดอยู่ที่ปากทางนี้เอง มนตรี ได้สอนวิธีปล้นซ้อนให้ เดวิด รู้จักโดยการฉกตัว อินทิรา ที่ยังใส่ชุดเครื่องเพชรไปอย่างง่ายดาย
มงคล และ มนตรี นำตัว อินทิรา มาขึ้นรถไฟขบวนพิเศษ ซึ่งสถานีปลายทางจัดส่งตู้สินค้า และ ตู้โดยสารที่หมดสภาพเข้าโรงงานซ่อม มงคล จึงใช้รถขบวนนี้ขนยาเสพติด และ อาวุธสงครามในคราวเดียวกัน..เมื่อขบวนรถเคลื่อนออกจากสถานี มงคล และ มนตรี ช่วยกันปลดเครื่องเพชรจาก อินทิรา จนไม่รู้ว่า..บุญเอก และ เดชา ขึ้นมาบนขบวนรถ รวมทั้ง เชิด และ ดารา ขณะที่ทั้งสองฝ่ายต่อสู้กัน เชิด คว้ากระเป๋าเครื่องเพชรจะโดดลงจากรถไฟ ดารา ก็เข้าขวางไว้ จึงเป็นที่เปิดเผยว่า…ดารา คือคนที่วางแผนให้ เชิด ปล้นซ้อนปล้นบังอร บินพารามอเตอร์ลงบนตู้รถไฟเพื่อบังคับให้ขบวนรถหยุด
ทว่า มงคล และ มนตรี วางแผนไว้หลายชั้น ลูกน้อง ที่ขึ้นมาบนขบวนรถตามรายทางระหว่างรถวิ่ง เป็นตัวช่วยที่คอยยิงสกัดกั้นเปิดทางให้ มงคล มนตรี นำ อินทิรา และ เครื่องเพชรทั้งหมดหนีรอดไปอย่างไร้ร่องรอยรวมทั้ง ดารา และ เชิด
บังอร บุญเอก เดชา รวมทั้งตำรวจที่ติดตามขบวนรถมา ต่างพากันมึนตึบ ไม่รู้จะไปตามกลุ่มวายร้ายได้ที่ไหน จ่าแม้น บอกมีคนเดียวที่น่าจะรู้คือ กำนันเทิด
กำนันเทิด โกรธแค้นเพราะ ทำนุ ถูกยิง รับอาสาพาลุยทันทีเพราะรู้ดีว่า หมอมนตรีมีโรงโม่หินทิ้งร้างอยู่ ทว่า..ก่อนที่ กำนันเทิด จะนำทุกคนไปถึงเชิด ได้นำหน้าพาลูกน้องลุยไปก่อนแล้ว
เชิด และ ลูกน้อง อีกหลายคนตายในการต่อสู้ แต่..มงคล และ มนตรี ก็ใช่ว่าจะหนีรอดไปได้ บุญเอก และ เดชา ถล่มอย่างไม่ยั้งมือ จะมีที่โชคร้ายก็คือ อินทิรา ถูกลูกหลงเข้าที่ท้องฟุบจมกองเลือด และเมื่อเคลียร์พื้นที่แล้วจึงรู้ว่า ดารา และ กระเป๋าใส่เพชรหายไปพารามอเตอร์ถูกส่งขึ้นบินทั่วพื้นที่ อ. ชายแดน
พอได้รับแจ้งทางวิทยุ บังอร ก็โดดขึ้นรถขับอย่างลืมถอนคันเร่ง เพียงไม่นานนักก็ แซงรถของ ดารา ที่กำลังจะถึงด่านชายแดน..และแล้ว ดารา ก็ได้รับชะตากรรมเช่นเดียวกับ บัลลังก์ อินทิรา หายป่วย เธอประกาศเลิกเล่นลิเกเพื่อแต่งงานกับ ผู้กองเดชา บุญเอก ต้องเสาะหานางเอกคนใหม่ บุญเอกจะได้ ใครเป็นนางเอกลิเก?
บุญโอบ หัวหน้าคณะลิเก ที่ต้องมีภาระรับผิดชอบอย่างใหญ่หลวง ที่จะต้องเลี้ยงดูทีมงานหลายสิบชีวิต โดยมี บุญเอก ลูกชายรับบทพระเอก และ อินทิรา รับบทนางเอก ลิเกไฮเทคที่มีบุญเอกเป็นพระเอก ได้มีสาวแก่ แม่ม่าย และบางคนก็ผัวเผลอ มาติดพันพระเอกสุดหล่อกันอย่างมากมาย โดยมีลิเกคณะของ อนุชิต เป็นคู่แข่งตัวสำคัญ