เกิดเหตุการณ์ตึกถล่มติด ๆ กันหลายครั้ง ไล่ตั้งแต่จันทบุรีมาถึงกรุงเทพฯ แต่ละครั้งก็จะพบอักขระประหลาดเขียนไว้ที่เสาอาคารก่อนจะเกิดเหตุการณ์ไม่กี่วัน เหตุการณ์นี้ทำให้ทุกคนหวาดกลัวว่าจะเป็นเรื่องของอาถรรพ์หรือไม่ เพราะที่ดินที่สร้างตึกเหล่านั้น ล้วนแล้วแต่เป็นที่ดินเก่าของ ขุนอุทัยโยธิน ขุนนางหนุ่มในสมัยรัชกาลที่ 5 ด้วยกันทั้งสิ้น นอกจากนั้น ก่อนหน้านี้ก็ยังมีผู้พบเอกสารโบราณของขุนอุทัยโยธินที่ประเทศรัสเซีย ซึ่งมีอักขระแบบเดียวกับที่ปรากฏบนเสาอาคารที่ถล่มทุกแห่งด้วย จึงยิ่งทำให้ข่าวเรื่องอาถรรพ์ของขุนอุทัยโยธินแพร่สะพัด สร้างความหวาดกลัวให้ผู้คนมากยิ่งขึ้น
เพลิงฟ้า นักข่าวของสถานีช่อง 6 สังเกตเห็นความผิดปกติที่เกิดขึ้นและตัดสินใจสืบเรื่องราวของอักขระปริศนานั้นต่อ และพบว่ามันเกี่ยวข้องกับ ศาสตราจารย์อดุล จุลโภค ผู้เชี่ยวชาญด้านประวัติศาสตร์ และยังเป็นอดีตคณะกรรมการที่ปรึกษาของคณะรัฐบาล แต่ปัจจุบันศาสตราจารย์อดุลได้ออกมาจากคณะกรรมการดังกล่าวแล้วด้วยเหตุผลด้านสุขภาพ ศาสตราจารย์อดุลมีภรรยาที่อายุรุ่นราวคราวเดียวกับเพลิงฟ้า ชื่อว่า ปักบุญ และมีหลานสาวหนึ่งคน ชื่อว่า สิตางศุ์
ปักบุญ หรือในอดีตก็คือเด็กหญิงที่เคยเป็นข่าวว่าระลึกชาติได้ เคยเป็นเด็กในการอุปการะของ นายพลคิด อิทธิวงศ์ อดีตนายทหาร นายพลคิดมีบุตรชายคนหนึ่ง คือ คราส อิทธิวงศ์ ซึ่งปัจจุบันเป็นผู้ช่วยของรองนายกรัฐมนตรี ปรีดา หัวหน้าคณะที่ปรึกษาของคณะรัฐบาล นายพลคิดกับศาสตราจารย์อดุล หมายมั่นปั้นมือให้คราสกับสิตางศุ์แต่งงานกัน นายพลคิดให้เหตุผลว่าปักบุญมองเห็นว่าสิตางศุ์กับคราสเป็นเนื้อคู่กันมาก่อน
เพลิงฟ้ากับสิตางศุ์มีโอกาสได้เจอกันโดยบังเอิญ เมื่อเพลิงฟ้าได้สัมผัสตัวสิตางศุ์ ความสามารถในการระลึกชาติของเพลิงฟ้าที่สะกดไว้ ก็ค่อย ๆ ตื่นขึ้นมาทีละน้อย เริ่มเกิดคดีฆาตกรรมลึกลับขึ้นกับคนรอบตัวของเพลิงฟ้า และเมื่อเพลิงฟ้าแตะที่ตัวเหยื่อ ก็เริ่มเห็นบางสิ่งบางอย่างที่เกี่ยวข้องกับการตาย เช่น สีที่บ่งบอกจิตใจของฆาตกร สถานที่ อาวุธ ฯลฯ และตัวอักขระลึกลับเหมือนกับที่ปรากฏในที่เกิดเหตุระเบิด เพลิงฟ้ามั่นใจว่าการตายของคนเหล่านี้ เกี่ยวข้องกับเหตุวินาศกรรมในที่ดินของขุนอุทัยแน่ จึงไปขอความช่วยเหลือจากสิตางศุ์ ยิ่งสืบทั้งคู่ก็ยิ่งรู้สึกได้ว่ามีบุคคลบางกลุ่มอยู่เบื้องหลัง คดีฆาตกรรมทั้งหมด เป็นไปเพื่อจุดประสงค์บางอย่างซึ่งอันตรายขึ้นเรื่อย ๆ และนอกจากนั้น ทั้งคู่ยังได้รู้ด้วยว่าอีกฝ่ายคือเพื่อนในวัยเด็กของตนนั่นเอง
เพลิงฟ้าเริ่มปะติดปะต่อเรื่องราวในอดีตทั้งหมดและได้เห็นเทวรูป กาลเทพ ที่มีพลังอำนาจสามารถเห็นอนาคตได้ และผู้ที่ควบคุมอนาคตได้ ก็เท่ากับได้พลังอำนาจที่ยิ่งใหญ่ที่สุดมาไว้ในมือ ในอดีตขุนอุทัย ได้รู้ถึงพลังอำนาจของเทวรูปกาลเทพ จึงกลัวว่าจะมีคนเอาเทวรูปไปใช้ในทางที่ผิด จึงทำพิธีสะกดเทวรูปไว้กับวิญญาณคน 9 คน ซึ่งถ้าคนทั้งเก้าไม่ได้เกิดมาในชาติเดียวกัน และถูกฆ่าพร้อมกันในชาตินั้น ก็จะไม่มีทางคลายมนต์สะกดได้ แต่ในชาตินี้คนทั้ง 9 ได้กลับมาเกิดพร้อมกันอีกครั้ง จึงเป็นที่มาของคดีฆาตกรรมประหลาดที่เกิดขึ้นในช่วงนี้ ซึ่งตนกับสิตางศุ์จะต้องหยุดยั้งให้ได้
เทวรูปกาลเทพได้กลืนกินชีวิตผู้คนมาหลายร้อยปี เพราะทุกคนต่างก็หวังจะได้เป็นผู้ครอบครอง แต่ก็ไม่มีใครได้สมใจ “อดีตชาติ” เกิดสิ่งใดขึ้นบ้าง เกิดด้วยฝีมือใคร ส่งผลร้ายถึงปัจจุบันอย่างไร ใครกันบ้างต้องรับโทษ แล้วใครจะหยุดยั้งเหตุร้ายเหล่านี้ได้ มาติดตามกันต่อได้ในละคร เล่ห์บรรพกาล ที่ออกอากาศทุกวันจันทร์-อังคาร เวลา 20.15 น. ทางช่อง 3 กด 33 ละคร เล่ห์บรรพกาล เริ่มตอนแรกวันอังคารที่ 3 มีนาคม 2563
- บทประพันธ์โดย : วรรณวรรธน์
- บทโทรทัศน์โดย : เอกลิขิต
- กำกับการแสดงโดย : ฟิว-กิตติศักดิ์ ชีวาสัจจาสกุล
- ผลิตโดย : บริษัท ทีวีซีน แอนด์ พิคเจอร์ จำกัด
- ควบคุมการผลิตโดย : ปิ่น-ณัฏฐนันท์ ฉวีวงษ์
นักแสดง เล่ห์บรรพกาล
- ณัฐวุฒิ สกิดใจ (ป๋อ) รับบท อดุล/ผีบุญ/ท้าววาร
- จิรายุ ตั้งศรีสุข (เจมส์) รับบท เพลิงฟ้า/ขุนอุทัยโยธิน/ท้าวราวิ
- ณฐพร เตมีรักษ์ (แต้ว) รับบท สิตางศุ์/ดวงแข/นางพญาศศินา
- สุภาพร วงษ์ถ้วยทอง (บูม) รับบท ปักบุญ/บุญเหลือ/ทิณสรี
- นัทธวัชร์ แก้วบัวสาย (เค้ก) รับบท คราส/พระอิทธิวงศา (วง)
- อนุชิต สพันธุ์พงษ์ (โอ) รับบท กิตติพงษ์/โตเก
- นวินดา เบอร์ต๊อดตี้ (มิ้นท์) รับบท บุลยา/ใย
- อภินันท์ ประเสริฐวัฒนกุล (เอ็ม) รับบท พล.อ.คิด อิทธิวงศ์
- นิธิ สมุทรโคจร (จ๊อบ) รับบท ผู้พันโฮเซ่
- มรกต หทัยวสีวงศ์ (ใยไหม) รับบท เกวลิน/กิ่ง
- ทวีศักดิ์ ธนานันท์ (อเล็กซ์) รับบท โทนี่/โควาสกี้
- สุปรานี เจริญผล (ไก่) รับบท ชลิดา
- วิศรุต หิรัญบุศย์ (ไผ่) รับบท พฤกษ์